นายเยนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวในวันนี้ว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเยอรมนีมีความรุนแรงมาก ทำให้รัฐบาลอาจจะต้องนำมาตรการต่างๆมาบังคับใช้ ไม่เว้นแม้แต่มาตรการล็อกดาวน์
"เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ซึ่งเราไม่สามารถตัดทางเลือกใดๆออกไป แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เป็นข่าวใหญ่ในสื่อก็ตาม" นายสปาห์นกล่าว
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายวันในเยอรมนีพุ่งขึ้นมากกว่า 50,000 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศมากกว่า 5.2 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมเกือบ 100,000 ราย
คำเตือนของเยอรมนีมีขึ้น หลังจากที่รัฐบาลออสเตรียประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มาตรการล็อกดาวน์ดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 22 พ.ย. โดยเบื้องต้นรัฐบาลจะบังคับใช้เป็นเวลา 10 วัน แต่จะไม่เกิน 20 วัน
การประกาศล็อกดาวน์ดังกล่าวของออสเตรียถือเป็นครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว และเป็นประเทศแรกในยุโรปตะวันตกที่ประกาศล็อกดาวน์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการล็อกดาวน์ต่อชาวออสเตรียราว 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยประชาชนกลุ่มนี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน และผู้ที่ละเมิดมาตรการดังกล่าวจะถูกปรับเป็นเงิน 500 ยูโร (567 ดอลลาร์) หรือเกือบ 20,000 บาท
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ออกคำสั่งให้ชาวออสเตรียจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2565
กระทรวงสาธารณสุขออสเตรียเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 15,809 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกิดการระบาดในปี 2563 ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,027,274 ราย