ผลวิจัยชี้จีนปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงครั้งแรกหลังศก.ฟื้นจากโควิด

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 25, 2021 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลวิจัยล่าสุดของฟินแลนด์เผยว่า จีนปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงเป็นครั้งแรกหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 ในช่วงไตรมาสที่ 3 โดยส่วนหนึ่งนั้นเป็นเพราะการหยุดชะงักในภาคอสังหาริมทรัพย์และการขาดแคลนพลังงานถ่านหิน

ลอรี มิลลีเวอร์ตา หัวหน้านักวิเคราะห์ของสถาบันวิจัยด้านพลังงานและอากาศสะอาด (Centre for Research on Energy and Clean Air: CREA) ในกรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์เผยว่า จีนมีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงราว 0.5% ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก

"การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงอาจเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ปริมาณสูงสุดในจีน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงปีต่อจากนี้ตามเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุดก่อนถึงปี 2573" มิลลีเวอร์ตากล่าวในรายงานที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ Carbon Brief วันนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลงนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เหนือความคาดหมาย หลังจีนปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 9% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนเริ่มฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 และกลับมาดำเนินกิจกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมหนักอย่างเต็มรูปแบบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ