รัฐบาลฮ่องกงประกาศห้ามชาวต่างชาติจาก 4 ประเทศในทวีปแอฟริกาไม่ให้เดินทางเข้าสู่ฮ่องกงซึ่งได้แก่ แองโกลา, เอธิโอเปีย, ไนจีเรีย และแซมเบีย เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน
แถลงการณ์ล่าสุดของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากแองโกลา, เอธิโอเปีย, ไนจีเรีย และแซมเบีย จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฮ่องกงตั้งแต่วันอังคารที่ 30 พ.ย.เป็นต้นไป ส่วนพลเมืองชาวฮ่องกงสามารถเดินทางกลับเข้าฮ่องกงได้หากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่ต้องกักตัวเป็นเวลา 7 วันในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดไว้ และจากนั้นต้องกักตัวอีก 2 สัปดาห์ในโรงแรมซึ่งต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
นอกจากนี้ ผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เยอรมนี, อิสราเอล และอิตาลีในช่วง 21 วันที่ผ่านมา จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. ส่วนพลเมืองชาวฮ่องกงที่รับการฉีดวัคซีนแล้วและเดินทางกลับจากประเทศเหล่านี้ จะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 3 สัปดาห์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาตรการที่มีการประกาศล่าสุดนี้ถือเป็นการประกาศเพิ่มเติม หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฮ่องกงออกมาตรการห้ามชาวต่างชาติจากแอฟริกาใต้, บอตสวานา, เอสวาตีนี, เลโซโท, โมซัมบิก, นามิเบีย และซิมบับเว ไม่ให้เดินทางเข้าสู่ฮ่องกง
ทั้งนี้ ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจำนวน 3 ราย โดยตรวจพบในระหว่างการตรวจหาเชื้อผู้ที่ถูกกักตัว