รัฐแคลิฟอร์เนียเตรียมบังคับใช้มาตรการให้บุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในสถานที่ซึ่งมีคนรวมตัวกันแออัดและมีความเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อป้องกันโควิด-19 ก่อนวันที่ 1 ก.พ.ปีหน้า ตามแนวทางการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน
นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียแถลงว่า "เราทราบดีว่า การฉีดวัคซีนให้ครบโดสยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันเชื้อสายพันธุ์ใหม่ และเชื่อว่าสิ่งสำคัญคือการขยายมาตรการนี้ให้ครอบคลุมการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน"
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐแคลิฟอร์เนียได้ออกคำสั่งให้บุคลากรทางการแพทย์ต้องฉีดวัคซีนครบทุกโดสไปเมื่อวันที่ 30 ก.ย.
สำหรับเจ้าหน้าที่ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 สัปดาห์ละสองครั้งไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 ก.พ. โดยสามารถขอยกเว้นได้ด้วยเหตุผลทางศาสนาหรือสุขภาพ
นายนิวซัมเผยอีกว่า แม้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียจะมีอัตราผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐ แต่สถานการณ์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน
ทางด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า แม้รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ จะมีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสอยู่ที่ 65.5% ซึ่งเกินกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ แต่ประชากรที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ยังไม่ถึง 30% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย