"เฟาชี" หนุน CDC ลดเวลากักตัวโควิด ชี้ช่วยให้ประชาชนกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 29, 2021 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว แสดงความคิดเห็นสนับสนุนคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ที่ให้ลดระยะเวลาในการกักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ เหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน โดยนายแพทย์เฟาชีระบุว่า การลดระยะเวลากักตัวเหลือเพียงครึ่งหนึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงานได้เร็วขึ้น

"ผมคิดว่าการตัดสินใจของ CDC นั้นรอบคอบและเหมาะสมดีแล้ว" นายเฟาชีกล่าว

นอกจากนี้ นายแพทย์เฟาชียังได้อธิบายถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจดังกล่าวด้วย โดยระบุว่า "ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของสหรัฐในตอนนี้ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์โอมิครอน เราต้องป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่มีคนจำนวนมากต้องกักตัว แน่นอนว่าหากผู้ติดเชื้อแสดงอาการก็ควรจะกักตัว แต่หากไม่แสดงอาการ เราก็อยากให้คนกลุ่มนี้กลับมาทำงานต่อได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในตำแหน่งที่จำเป็นต่อการทำให้สังคมเดินหน้าต่อไป"

"หากคุณติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ คุณก็สามารถกักตัว 5 วัน จากนั้นก็กลับมาใช้ชีวิตและทำงานตามปกติได้โดยสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด แทนที่จะต้องถูกกันออกจากวงสังคมและการปฏิบัติหน้าที่ไปตลอด 10 วัน" นายแพทย์เฟาชีระบุ

เมื่อวานนี้ (28 ธ.ค.) CDC ได้ออกคำแนะนำให้รัฐบาลร่นเวลาในการกักตัวชาวอเมริกันที่ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการลงเหลือเพียง 5 วัน จากเดิม 10 วัน พร้อมกับแนะนำให้ผู้ติดเชื้อสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในช่วง 5 วันที่เหลือเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น

ขณะเดียวกัน CDC ยังแนะนำให้มีการกักตัว 5 วันสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคนกลุ่มนี้รวมถึงผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือได้รับวัคซีนชนิด mRNA เข็มที่ 2 มาแล้วเกิน 6 เดือน หรือผู้ที่ได้รับวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน มาแล้วกว่า 2 เดือนและยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ โดยหลังจากการกักตัวครบกำหนดแล้ว ควรสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดเพิ่มอีกเป็นเวลา 5 วัน

นอกจากนี้ CDC แนะนำว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องกักตัวหลังจากพบว่าติดเชื้อ แต่ควรสวมหน้ากากอนามัยเป็นเวลา 10 วัน


แท็ก สหรัฐ   โทน  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ