นางสเตลลา คีเรียคิเดส กรรมาธิการด้านสาธารณสุขของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่า พลเมืองของ EU ราว 1 ใน 5 ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มบูสเตอร์แล้ว
นางคีเรียคิเดส นักจิตวิทยาและนักการเมืองชาวไซปรัส กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสถานีวิทยุ CyBC ของไซปรัสว่า อัตราการเข้ารับวัคซีนขณะนี้อยู่ที่เกือบ 20% พร้อมระบุว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นต่อการปกป้องผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น เบาหวาน
นอกจากนี้ นางคีเรียคิเดสกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิก EU เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และเตือนว่า สถานการณ์ในวันข้างหน้ายังคงไม่แน่นอน
"ฉันไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปอย่างไร แต่ฉันคาดว่าไวรัสโอมิครอน ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้ปัญหานั้นแย่ลง" นางคีเรียคิเดสกล่าว พร้อมกับเรียกร้องให้พลเมือง EU เข้ารับการฉีดวัคซีนและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งคัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด
ในช่วงกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) อนุมัติการเพิ่มกำลังการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทค, โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในยุโรป
นอกจากนี้ EMA ยังได้อนุมัติการใช้ยาแพกซ์โลวิดของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ใน EU
การดำเนินการดังกล่าวของ EMA ถือเป็นการอนุมัติอย่างฉุกเฉินเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในยุโรป โดย EMA ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการอนุมัติตามกฎระเบียบ และยังไม่ได้อนุมัติให้มีการจำหน่ายยาแพกซ์โลวิดในเชิงพาณิชย์