นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า แม้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้เกิดอาการรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ควรจัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่ไม่อันตราย
"ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนยังคงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น" นายแพทย์ทีโดรสกล่าวในการแถลงข่าววานนี้ (6 ม.ค.)
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้ผลวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโอมิครอนก่อให้เกิดอาการรุนแรงน้อยกว่า และผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยลง อย่างไรก็ดี ด้วยความที่สายพันธุ์โอมิครอนแพร่กระจายได้ง่าย ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกจึงพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งได้สร้างแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก
WHO ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้น 71% ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค. เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 10% โดย WHO คาดว่า ยอดผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจสูงกว่าที่มีการรายงาน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นในการรายงานสัปดาห์หน้า
ที่ผ่านมา นายแพทย์ทีโดรสได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ และผู้นำภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการกระจายวัคซีนอย่างเท่าเทียม เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ WHO ในการฉีดวัคซีนให้กับ 70% ของประชากรโลกภายในกลางปี 2565 อย่างไรก็ดี หากการอัตราฉีดวัคซีนยังคงเป็นไปเช่นในปัจจุบัน ก็จะมี 109 ประเทศที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายดังกล่าวได้ภายในเดือนก.ค.ปีนี้
"วัคซีนรุ่นแรกอาจป้องกันการติดเชื้อไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังสามารถป้องกันการล้มป่วยหนักได้" นายแพทย์ทีโดรสกล่าว
นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังได้กล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำในประเทศที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างกว้างขวางนั้น เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเกิดสายพันธุ์ใหม่ ๆ