รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศขยายมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ออกไปอีก 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ในระดับสูง โดยเฉพาะก่อนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน
ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้กลับมาบังคับใช้มาตรการดังกล่าวอีกครั้ง หลังยกเลิกเพื่อให้สอดรับกับแผน "อยู่ร่วมกับโควิด-19" ได้เพียง 6 สัปดาห์ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ป่วยหนักพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์และสร้างความเสี่ยงต่อระบบการแพทย์ของประเทศ
"ปัจจัยบ่งชี้ต่าง ๆ มีความคืบหน้าพอประมาณ แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์นี้ไม่ลดลงแม้แต่น้อย" นายคิม บู-คยอม นายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้กล่าวต่อที่ประชุม และเปิดเผยว่าสัดส่วนของผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนภายในประเทศแตะที่ระดับ 20% ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
การขยายมาตรการสกัดโควิด-19 มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 6 ก.พ. รวมถึงการสั่งให้ร้านอาหาร, คาเฟ่ และบาร์ปิดให้บริการในเวลา 21.00 น. แต่การจำกัดจำนวนการรวมกลุ่มจะเพิ่มขึ้นจาก 4 คน เป็น 6 คนสำหรับบุคคลที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้เตือนว่า เชื้อไวรัสโอมิครอนจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศภายในเวลา 2 สัปดาห์ หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งแตะระดับ 20,000 คนในเดือนก.พ. และ 30,000 คนในเดือนมี.ค.
สำหรับวันหยุดเทศกาลตรุษจีนนั้นจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 29 ม.ค. และโดยปกติแล้วชาวเกาหลีหลายล้านคนจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อรวมญาติ ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงที่โควิด-19 จะแพร่ระบาดมากยิ่งขึ้น
เกาหลีใต้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายวันมากกว่า 4,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 และยอดผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในวันนี้ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลี (KDCA) ได้รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,542 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ติดเชื้อในชุมชน 4,133 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมปรับตัวขึ้นสู่ 683,566 คน