ประเทศต่าง ๆ ในแถบแปซิฟิก และหน่วยงานด้านความช่วยเหลือซึ่งรวมถึงสภากาชาดสากล ได้เริ่มปฏิบัติการร่วมมือเพื่อช่วยเหลือประเทศตองกา หลังเกิดเหตุการณ์ภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดในตองกาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามินอกชายฝั่ง และสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อสาธารณูปโภคของตองกา
ทั้งนี้ แม้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในตองกา แต่ระบบการสื่อสารยังคงถูกตัดขาด ซึ่งรวมถึงระบบโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต
นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า คลื่นยักษ์สึนามิได้สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อระบบสาธารณูปโภคของตองกา และในวันนี้กองทัพนิวซีแลนด์ได้ส่งเครื่องบิน Air Force P-3K Orion ไปยังตองกาเพื่อช่วยประเมินความเสียหายในเบื้องต้น
ขณะที่สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ของ IFRC ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยของตองกาแล้ว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ เนื่องจากภัยพิบัติภูเขาไฟระเบิดในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี
"ขณะนี้ IFRC ได้ส่งสเบียงบรรเทาทุกข์ในปริมาณที่มากพอที่จะช่วยเหลือครัวเรือนของตองกา ซึ่งได้แก่ ผ้าห่ม, ชุดทำครัว, เต๊นท์พักอาศัยชั่วคราว และอุปกรณ์ทำความสะอาด" เคธี กรีนวู้ด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ IFRC กล่าว พร้อมกับแสดงความกังวลว่า ประชาชนชาวตองกาโดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่ง อาจประสบความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งน้ำดื่มที่ปลอดภัย เนื่องจากคลื่นยักษ์สึนามิและเถ้าจากภูเขาไฟได้ทำให้แหล่งน้ำถูกปนเปื้อน
ทางด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ยืนยันว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ UN ในภูมิภาคแปซิฟิกพร้อมที่จะส่งความช่วยเหลือไปยังตองกา
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิดในตองกาซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาคพอลินีเชีย และตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกระหว่างประเทศนิวซีแลนด์กับรัฐฮาวายของสหรัฐ
ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิกของสหรัฐรายงานว่า ได้เกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กซึ่งมีความสูง 60 เซนติเมตรในอเมริกัน ซามัวซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐ หลังจากเกิดเหตุภูเขาไฟระเบิดในตองกา ทางด้านกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า พบคลื่นสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของญี่ปุ่น ส่งผลให้กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิ และสั่งให้ประชาชนกว่า 210,000 รายอพยพไปอยู่บนพื้นที่สูง