นายจามัต ปาลีหปิติยา มหาเศรษฐีนักลงทุนได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทางสื่อโซเชียลถึงคำพูดของเขาในรายการพ็อดคาสท์ โดยเขาได้ออกความเห็นว่า คนทั่วไปไม่ได้สนใจเกี่ยวกับประเด็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ในเขตซินเจียงของจีน
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ในช่วงเริ่มต้นของรายการดังกล่าว นายเจสัน คาลาคานิส พิธีกรร่วมรายการได้เปิดประเด็นพูดคุยถึงความพยายามของรัฐบาลของปธน.ไบเดนที่จะสร้างแรงกดดันต่อจีนเพื่อตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์ ซึ่งทำให้นายปาลีหปิติยาเปิดเผยว่า เขาไม่สนใจในประเด็นดังกล่าว และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปให้ความสำคัญ
"ทุกครั้งที่ผมพูดว่าผมสนใจเรื่องชาวอุยกูร์ ความจริงแล้วผมโกหก ผมไม่ได้สนใจจริง ๆ และผมไม่อยากจะโกหกคุณ ฉะนั้นผมจะพูดตรง ๆ เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผม" และ "ไม่มีใครสนใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับชาวอุยกูร์" นายปาลีหปิติยากล่าว
นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เขาสนใจนั้นคือปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทาน, การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, ระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ของสหรัฐ และผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการที่จีนรุกรานไต้หวัน
คำพูดของนายปาลีหปิติยาซึ่งเป็นเจ้าของร่วมของทีมบาสเกตบอลโกลเด้น สเตท วอร์ริเออส์ ได้ทำให้ทางทีมออกแถลงการณ์แก้ต่างว่า "นายปาลีหปิติยาไม่ใช่ผู้แทนของทีมเรา และความคิดเห็นของนายปาลีหปิติยานั้นไม่ตรงกันกับสิ่งที่องค์กรเรายึดมั่นอย่างแน่นอน"
อย่างไรก็ดี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (17 ม.ค.) นายปาลีหปิติยาได้โพสต์ข้อความชี้แจงทางทวิตเตอร์ โดยยอมรับว่า คำพูดที่เขาใช้สื่อสารอาจแสดงถึงความไม่เห็นอกเห็นใจ
"ครอบครัวของผมเองก็ได้อพยพออกจากประเทศที่มีปัญหาสิทธิมนุษยชนเช่นกัน ดังนั้นประเด็นนี้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในชีวิตผม" นายปาลีหปิติยาระบุในข้อความ "ผมขอย้ำเพื่อความชัดเจนว่า ผมให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนไม่ว่าจะเป็นในจีน สหรัฐ หรือที่ใดก็ตาม"