ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ตัดสินใจย้ายพนักงานแผนกตราสารทุนระดับอาวุโสประมาณ 6 รายออกจากฮ่องกงไปยังสิงคโปร์และตลาดอื่น ๆ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งว่า การบังคับใช้กลยุทธ์โควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid) อันเข้มงวดของฮ่องกง ทำให้ธนาคารระดับโลกต้องย้ายพนักงานสำคัญออกจากศูนย์กลางการเงินเอเชียแห่งนี้
ทั้งนี้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นายลี แมคควีน หัวหน้าแผนกตราสารทุนเอเชีย อยู่ในกลุ่มกรรมการผู้จัดการที่ต้องโยกย้ายไปยังสิงคโปร์ หลังการเคลื่อนไหวเมื่อไม่นานมานี้ของนางซู ลี หัวหน้าแผนกตราสารอนุพันธ์ประจำภูมิภาค ส่วนผู้อำนวยการอีก 4-5 คนอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องการย้ายไปยังสิงคโปร์ ซึ่งรวมถึง นายเควิน ซอลคีวิคซ์ หัวหน้าฝ่ายดำเนินงานด้านสัญญาล่วงหน้าประจำเอเชียแปซิฟิก, นายร็อบ แมควี ซึ่งดูแลด้านการเงินชั้นนำ และนายอภิเชก เชาดารี หัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาการดำเนินงานด้านตราสารทุนในภูมิภาค
นอกจากนี้ แหล่งข่าวระบุว่า นายแดเนียล มิลล์วู้ด หัวหน้าฝ่ายบริการการขายชั้นนำประจำเอเชียแปซิฟิก กำลังจะย้ายไปยังกรุงลอนดอน ขณะที่ นายอัลลัน นิวซัมเตรียมย้ายไปยังออสเตรเลีย เพื่อดำรงตำแหน่งเทรดเดอร์ฝ่ายขายอิเล็กทรอนิกส์
"ซิตี้มีความยืดหยุ่นในการสนับสนุนพนักงานที่ต้องการย้ายสำนักงานจากเหตุผลเกี่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้า" นายเจมส์ กริฟฟิธส์ โฆษกซิตี้กรุ๊ปกล่าว โดยเขาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการโยกย้ายบุคลากรแบบเฉพาะเจาะจง
ขณะนี้ฮ่องกงกำลังประสบความยากลำบากในการควบคุมโควิด- 19 ระลอก 5 โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนได้ออกมากำชับในสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้เจ้าหน้าที่ฮ่องกงใช้ "ทุกมาตรการที่จำเป็น" ในการควบคุมโรคระบาดให้สำเร็จ ซึ่งเป็นถ้อยคำที่อาจเปิดทางไปสู่การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวงกว้างในฮ่องกง
ปัจจุบัน ศูนย์กลางการเงินอื่น ๆ เช่น สิงคโปร์เลือกใช้กลยุทธ์อยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยสิงคโปร์ได้ออกมาส่งสัญญาณในวันพุธ (16 ก.พ.) ว่าจะผ่อนปรนมาตรการจำกัดการเดินทางและมาตรการจำกัดทางสังคมทันทีที่การระบาดระลอกปัจจุบันแตะระดับสูงสุด
ฮ่องกงเตรียมระดมตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั่วทั้งเกาะ โดยใช้วิธีสกัดจำนวนผู้ติดเชื้อแบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ หลังเผชิญปัญหาในการควบคุมการระบาดระลอกที่รุนแรงที่สุดอยู่ในขณะนี้ โดยสื่อท้องถิ่นของฮ่องกงคาดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ (17 ก.พ.) อาจเพิ่มถึง 5,000 ราย ขณะที่เมื่อวานนี้อยู่ที่ 4,285 ราย และรายงานผู้เสียชีวิต 10 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ