ไต้หวันยกเลิกคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าประเภทอาหารจากจังหวัดฟูกูชิมะและอีก 4 จังหวัดของญี่ปุ่น ซึ่งบังคับใช้หลังเกิดวิกฤตการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ เมื่อเดือนมี.ค. 2554
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไต้หวันระบุว่า คำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจากจังหวัดฟูกูชิมะ, อิบารากิ, โทจิงิ, กุนมะ และชิบะ จะมีการปรับเปลี่ยนตามระดับความเสี่ยง จากเดิมที่ห้ามนำเข้าตามพื้นที่ผลิต ทั้งนี้เพราะไต้หวันต้องการแรงหนุนจากญี่ปุ่นเพื่อให้ได้เข้าร่วมข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (TPP) ซึ่งจีนพยายามเข้าร่วมเช่นเดียวกัน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวถูกยกเลิก ยกเว้นอาหารบางชนิด เช่น เห็ดและเนื้อสัตว์ป่า โดยสินค้าประเภทอาหารจาก 5 จังหวัดยังคงต้องมีฉลากระบุแหล่งที่มาตามจังหวัดและเอกสารรับรองว่า ผ่านการตรวจสอบสารกัมมันตภาพรังสี
เมื่อเดือนมี.ค. 2554 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ส่งผลให้คลื่นสึนามิพัดถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิชิ หลังภัยพิบัติครั้งนั้นประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ 55 แห่งได้ออกมาตรการห้ามนำเข้าอาหารจากญี่ปุ่น แต่ส่วนใหญ่ได้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวแล้ว
ต่อมา ในการลงประชามติปี 2561 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในไต้หวันลงคะแนนให้คงคำสั่งห้ามนำเข้าสินค้าอาหารจากญี่ปุ่น เป็นผลให้รัฐบาลของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ยังคงห้ามนำเข้าอาหารจากจังหวัดดังกล่าว
อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังให้เหตุผลว่า การผ่อนปรนคำสั่งห้ามนำเข้าดังกล่าวจะเปิดทางให้การขอเข้าร่วมในข้อตกลง TPP ของไต้หวันสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการเจรจาข้อตกลง TPP ภายหลังจากสหรัฐถอนตัวเมื่อปี 2560 ในยุคของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์