นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศในรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ (21 ก.พ.) ให้ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ภายในประเทศทั้งหมด โดยยกเลิกข้อบังคับการกักตัวสำหรับผู้ตรวจพบเชื้อโควิด และหันมาใช้กลยุทธ์ "อยู่ร่วมกับโควิด" โดยจะเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน นายจอห์นสันยังประกาศยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไปอีกด้วย
"ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป เมื่อฤดูหนาวสิ้นสุดลงและเชื้อไวรัสแพร่กระจายได้ยากขึ้น เราจะยุติการตรวจหาเชื้อฟรีสำหรับประชาชนทั่วไป ทั้งผู้ที่มีอาการและไม่แสดงอาการ" นายจอห์นสันกล่าว
นายจอห์นสันเปิดเผยว่า หลังผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้วก็จะเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจ เนื่องจากอังกฤษเริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับโควิด-19
"การระบาดยังไม่สิ้นสุด แต่เนื่องด้วยการกระจายวัคซีนที่ดีเหลือเชื่อ ตอนนี้เราจึงเข้าใกล้การกลับสู่ภาวะปกติไปอีกก้าวหนึ่ง และคืนอิสรภาพให้แก่ประชาชนในที่สุด พร้อมกับปกป้องตัวเราเองและคนรอบข้างต่อไป" นายจอห์นสันกล่าว
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอังกฤษล่าสุดว่า ประชาชนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วมากกว่า 91%, ฉีดเข็มที่ 2 แล้วมากกว่า 85% และฉีดเข็มบูสเตอร์แล้วมากกว่า 66%
"อังกฤษจะเปลี่ยนจากการคุมเข้มโดยรัฐบาลมาเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล" นายจอห์นสันกล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลจะยังคงเตรียมรับมือกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป