นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเรียกร้องให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังจากพากันแห่กักตุนสินค้าขณะที่มีรายงานข่าวว่าฮ่องกงจะดำเนินการบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงข่าวลือเรื่องการล็อกดาวน์
หนังสือพิมพ์ชิงเต่ารายงานว่า ฮ่องกงอาจเริ่มดำเนินการบังคับตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลังจากวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งสร้างความกังวลว่าหลายคนจะถูกบังคับให้กักตัว โดยครอบครัวที่มีสมาชิกที่ติดโควิดจะต้องถูกแยกออกจากกัน
แถลงการณ์ของนางลัมระบุว่า นางลัมวอนให้ประชาชนอย่าตกเป็นเหยื่อของข่าวลือเพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดกลัวที่ถูกปลุกปั่นโดยไม่จำเป็น ขณะที่อุปทานของอาหารและสินค้าก็ยังคงปกติ
นางลัมกล่าวว่า "ประชาชนไม่จำเป็นต้องเป็นกังวล พวกเขาควรระมัดระวังและให้ความสำคัญกับข้อมูลที่เผยแพร่โดยรัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่เกิดจากข่าวลือ"
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ฮ่องกงกำลังวางแผนที่จะตรวจหาเชื้อโควิดแก่ประชาชน 7.4 ล้านรายจำนวน 3 ครั้งภายในระยะเวลา 9 วัน โดยรัฐบาลแนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วงเวลาดังกล่าว
มาตรการดังกล่าวจะยกเว้นสำหรับผู้ที่เดินทางออกไปซื้ออาหาร, เข้ารับการรักษาทางการแพทย์ และดูแลการดำเนินงานทางสังคม ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงก็จะยังคงเปิดดำเนินการ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ฮ่องกงรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 34 เท่า แตะ 34,000 รายเมื่อวันจันทร์ (28 ก.พ.) จากเพียง 100 รายเมื่อต้นเดือนก.พ. ขณะที่ผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้สถานที่เก็บศพในโรงพยาบาลและสุสานเต็มหมด