โฆษกขององค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า UN และพันธมิตรกำลังเตรียมเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในยูเครน หากสถานการณ์ด้านความปลอดภัยเอื้ออำนวย
นายสเตฟาน ดูจาร์ริก หัวหน้าโฆษกของนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ระบุว่า องค์กรภาคประชาสังคมท้องถิ่นและอาสาสมัครพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมถึงผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ, ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง และผู้ที่พยายามข้ามพรมแดน
นายดูจาร์ริกกล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ของเรารายงานว่า เหตุปะทะรุนแรงในหลายพื้นที่ของยูเครนส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต และเกิดความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งสร้างผลกระทบด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง" พร้อมเสริมว่า "ความเสียหายของถนนทำให้ห่วงโซ่อุปทานท้องถิ่นหยุดชะงัก รวมถึงการเข้าถึงอาหารและสิ่งของพื้นฐานอื่น ๆ"
ขณะเดียวกัน นายดูจาร์ริกเสริมว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รายงานว่า มีประชาชนมากกว่า 500,000 รายต้องเดินทางข้ามประเทศเพื่อลี้ภัยจากเหตุรุนแรง โดยส่วนมากได้เลือกเดินทางไปยังโปแลนด์ และมีประชาชนพลัดถิ่นในประเทศอย่างน้อย 160,000 ราย
นายดูจาร์ริกยังระบุอีกว่า "เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของเรายังเตือนว่า ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นนั้นเสี่ยงจะก่อให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมในยูเครนและในประเทศเพื่อนบ้าน"
ทั้งนี้ นายดูจาริกเสริมว่า โครงการอาหารโลก (WFP) กำลังเริ่มปฏิบัติการฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนในยูเครนเพื่อมอบความช่วยเหลือด้านอาหารให้แก่ผู้ลี้ภัย พร้อมยืนยันมอบความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านตามที่ร้องขอ