ยูเครนอยู่ในภาวะขาดแคลนเครื่องมือทางการแพทย์ขั้นรุนแรงอยู่แล้ว โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ก.พ.) WHO ระบุในแถลงการณ์ว่า โรงพยาบาลในยูเครนอาจไม่มีออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ส่งผลให้ชาวยูเครนหลายพันคนต้องตกอยู่ในความเสี่ยง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า WHO เกิดความวิตกต่อวิกฤตด้านสาธารณสุขในยูเครนที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการโจมตีของรัสเซียส่งผลให้ประชาชนส่วนหนึ่งหนีออกนอกประเทศ อีกทั้งบริการด้านสุขภาพยังถูกขัดขวาง ไม่สามารถลำเลียงขนส่งเวชภัณฑ์ไปถึงยูเครนได้ และยังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 อีกด้วย
นายทาริก ยาซาเรวิก โฆษก WHO กล่าวเมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า ขั้นตอนการฉีดวัคซีนและการควบคุมการระบาดของโรคโปลิโอในยูเครนถูกระงับไว้ชั่วคราวเนื่องจากเกิดการสู้รบ นอกจากนี้ WHO ยังได้รับรายงานว่าโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็ถูกระงับในหลายพื้นที่ของประเทศด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ โครงการฉีดวัคซีนโปลิโอแก่เด็ก 100,000 คนทั่วประเทศยูเครนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.พ. แต่ถูกระงับไว้ชั่วคราวหลังรัสเซียบุกยูเครน ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขหันไปดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินแทน
WHO กล่าวว่าปัญหาไฟดับในบางพื้นที่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรักษาวัคซีน และการเฝ้าระวังการระบาดต้องหยุดชะงัก
"WHO กำลังทำแผนสำรองโดยด่วนเพื่อสนับสนุนยูเครนและยับยั้งการระบาดของโรคโปลิโอที่เกิดจากความขัดแย้งครั้งนี้เพิ่มเติม" นายยาซาเรวิก กล่าว
อนึ่ง รัสเซียเรียกปฏิบัติการในยูเครนว่า "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" เพื่อทำลายความสามารถทางทหารของยูเครนและจับกุมคนที่รัสเซียมองว่าเป็นพวกคลั่งชาติตัวอันตราย โดยรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ตั้งเป้าทำร้ายพลเรือนแต่อย่างใด