องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) เปิดเผยวานนี้ (9 มี.ค.) ว่า มีเด็กกว่า 1 ล้านคนที่ต้องลี้ภัยสงครามจากยูเครนไปยังประเทศเพื่อนบ้านภายในระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.
แคทเธอรีน รัสเซลล์ กรรมการบริหารของยูนิเซฟเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า มีเด็กอย่างน้อย 37 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 50 คน
รัสเซลล์เปิดเผยว่า เธอรู้สึกหวาดผวาหลังจากที่ได้รับรายงานข่าวเรื่องการโจมตีโรงพยาบาลเด็กในยูเครน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า เครื่องบินรัสเซียได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็กของยูเครนเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้ผู้ป่วยจำนวนมากถูกฝังอยู่ภายใต้ซากอาคาร แม้รัสเซียและยูเครนได้ทำข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวเพื่ออพยพประชาชนในเมืองมาริอูโพลแล้วก็ตาม
รัสเซลล์เปิดเผยว่า การโจมตีครั้งนี้จะส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กและครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ปัจจุบัน มีชาวยูเครนกว่า 2 ล้านคนได้ลี้ภัยออกจากประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ผู้ชายจะต้องอยู่สู้รบในประเทศตามคำขอของรัฐบาลยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การทำสงครามได้ส่งผลให้นานาชาติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย อีกทั้งยังถูกประณามจากประชาคมโลก โดยเมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) สหรัฐได้ประกาศแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ธุรกิจยักษ์ใหญ่พากันถอนธุรกิจออกจากรัสเซียเพื่อสร้างแรงกดดันอีกทางหนึ่งด้วย