สื่อต่างประเทศรายงานว่า ชนชั้นนำและมหาเศรษฐีชาวรัสเซียพยายามหลบหนีมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่ชาติตะวันตกระดมใส่รัสเซียหลังเปิดฉากบุกยูเครน
ทั้งนี้ สหรัฐ อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) เป็นกลุ่มประเทศที่ได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรซึ่งส่งผลรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยพุ่งเป้าไปที่ธนาคาร, สายการบินของรัสเซีย, ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน รวมถึงบุคคลใกล้ชิดของผู้นำรัสเซีย โดยมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินในครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อบรรดาเศรษฐีรัสเซียไปแล้วกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ ณ สัปดาห์ที่แล้ว
ด้านสำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันเสาร์ (5 มี.ค.) ว่า อิตาลีได้ยึดเรือยอชต์และบ้านพักตากอากาศของเศรษฐีรัสเซียมูลค่า 156 ล้านดอลลาร์ โดยก่อนหน้านั้นฝรั่งเศสเผยว่า ได้ยึดเรือสำราญมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ของบุคคลใกล้ชิดปธน.ปูตินด้วย
ขณะเดียวกัน มหาเศรษฐีรัสเซียบางส่วนได้หาพื้นที่หลบภัยซึ่งเป็นประเทศที่ไม่ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย หรือไม่มีข้อกำหนดส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้สหรัฐ อาทิ นครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งนักธุรกิจรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า "ในช่วงที่ผ่านมา ความต้องอพาร์ทเมนท์หรูในหมู่ชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ"
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า UAE มีแนวโน้มดึงดูดชนชั้นนำที่ถูกคว่ำบาตร เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงินที่ไม่เข้มงวด และมีท่าทีที่เป็นกลางหลังรัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครน
นอกจากนี้ ชนชั้นนำและมหาเศรษฐีรัสเซียยังเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรไปยังมัลดีฟส์ ซึ่งไม่มีสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนให้กับสหรัฐ