นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเปิดเผยว่า ฮ่องกงไม่ได้มีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการออกมาตรการล็อกดาวน์ และไม่มีระบบการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภาคบังคับที่รวดเร็วเช่นเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยว่า ประชาชน 1.7 ล้านคนในเมืองเซินเจิ้นทางภาคใต้ของประเทศจีนต้องเผชิญมาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางการจีนจะออกปฏิบัติการตรวจหาเชื้อทั่วเมืองทั้งหมด 3 รอบในช่วงระยะเวลาดังกล่าว
"เราไม่อาจใช้มาตรการเช่นเดียวกับเมืองต่าง ๆ ในจีนแผ่นดินใหญ่ หากทุกท่านขอให้ฮ่องกงดำเนินการเช่นเดียวกับเซินเจิ้น โดยเร่งปูพรมตรวจหาเชื้อภาคบังคับทั่วทั้งเมือง 3 รอบภายในเวลาไม่กี่วัน ดิฉันเกรงว่าเราไม่ได้มีศักยภาพมากพอที่จะดำเนินการเช่นนั้น" นางลัมกล่าว
ในช่วงเกือบ 3 สัปดาห์ก่อน นางลัมประกาศว่าประชาชนทุกคนในฮ่องกง ซึ่งมีประชากร 7.4 ล้านคน ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อ 3 ครั้งในเดือนมี.ค. แต่สุดท้ายต้องเลื่อนแผนการนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุก่อนและลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อโควิด-19
นอกจากนี้ นางลัมกล่าวเมื่อวานนี้ว่า แม้เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อเมื่อไม่นานมานี้ แต่ฮ่องกงยังคงสามารถเก็บตัวอย่างเพื่อนำไปตรวจหาเชื้อได้เพียง 200,000 ? 300,000 รายการต่อวันเท่านั้น และจะประสบกับความล่าช้าพอสมควร