สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนเมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ว่า ตลาดน้ำมันอาจสูญเสียน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่น ๆ จากรัสเซียรวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเมษายนปีนี้ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขดีมานด์น้ำมันที่คาดว่าจะลดลงราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ IEA ได้ปรับลดคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันโลกลง 1.3 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับไตรมาส 2 จนถึงไตรมาส 4/2565 และยังได้ปรับลดคาดการณ์ดีมานด์น้ำมันตลอดปี 2565 ปีลง 950,000 บาร์เรล - 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับเฉลี่ย 99.7 ล้านบาร์เรล/วัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 140 ดอลลาร์/บาร์เรล
IEA ระบุว่า การที่กลุ่มผู้ซื้อหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันจากรัสเซียนั้น ได้สร้างแรงกดดันให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น จนอาจกระทบต่อการเงินส่วนบุคคล, ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นพุ่งขึ้นอีก และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นตาม ซึ่งจะตัดกำลังซื้อของภาคครัวเรือน และอาจทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกปรับนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการคว่ำบาตรรัสเซียในด้านการเงินและการซื้อขายน้ำมัน ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดีมานด์น้ำมัน
อนึ่ง รายงานฉบับนี้เป็นรายงานเกี่ยวกับตลาดน้ำมันรายเดือนฉบับแรกของ IEA ซึ่งมีสมาชิกเป็นประเทศอุตสาหกรรม 31 ประเทศ แต่ไม่รวมถึงรัสเซีย