สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) เรียกร้องให้มีการตรวจสอบความเสี่ยงที่อาจแฝงอยู่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน หลังเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ตกในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงของจีนเมื่อวานนี้ (21 มี.ค.)
CAAC ระบุว่า ควรกำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบอันตรายที่อาจแฝงอยู่ในส่วนของการซ่อมบำรุงเครื่องบิน, การตรวจสอบสภาพอากาศเพื่อขึ้นบิน รวมถึงคุณสมบัติและทักษะการปฏิบัติงานของพนักงาน
ทั้งนี้ CAAC ได้ให้คำมั่นสนับสนุนโครงการส่งเสริมความปลอดภัยระยะเวลา 3 ปี รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความปลอดภัยการบินพลเรือนให้มีมาตรการที่รัดกุม นอกจากนี้ ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศรายงานพยากรณ์อากาศ รวมถึงแจ้งเตือนการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ และสภาพอากาศเลวร้ายให้ทันต่อเวลา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เครื่องบินลำดังกล่าวตกจนเกิดไฟลุกไหม้ในหุบเขาใกล้กับหมู่บ้านโม่ล่าง อำเภอเถิงเซี่ยน เมืองอู๋โจว เมื่อเวลา 14.38 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยเป็นเที่ยวบิน MU5735 ที่เดินทางออกจากเมืองคุนหมิงเมื่อเวลา 13.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ และมีกำหนดเดินทางถึงเมืองกวางโจวภายในเวลา 2 ชั่วโมง