รัฐบาลนิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า จะยกเลิกข้อบังคับฉีดวัคซีนสำหรับภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงภาคการศึกษาและตำรวจตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. เป็นต้นไป หลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกปัจจุบันใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของนิวซีแลนด์ได้รับเสียงชื่นชมจากต่างประเทศ และทำให้อัตราการเสียชีวิตและการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับข้อกำหนดต่าง ๆ ในประเทศนั้นเพิ่มขึ้น และถึงจุดแตกหักเมื่อต้นเดือนมี.ค.นี้ระหว่างการประท้วงที่รุนแรงนอกอาคารรัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน
นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวในการแถลงข่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.เป็นต้นไป จะมีเพียงผู้ที่ทำงานร่วมกับกลุ่มที่เปราะบาง เช่น การดูแลผู้สูงอายุและสุขภาพ รวมถึงพนักงานตามแนวชายแดนเท่านั้นที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีน
นอกจากนี้ นิวซีแลนด์จะยกเลิกข้อบังคับที่ต้องใช้บัตรผ่านวัคซีนเพื่อเข้าร้านอาหาร, ร้านกาแฟ และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ
ทั้งนี้ ชาวนิวซีแลนด์ที่มีอายุเกิน 12 ปีจำนวนกว่า 95% ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว
นางอาร์เดิร์นกล่าวเสริมว่า จุดสูงสุดของการแพร่ระบาดในเมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และคาดว่าการระบาดในส่วนที่เหลือของประเทศจะแตะจุดสูงสุดก่อนวันที่ 5 เม.ย.นี้ ซึ่งอาจจะมีการยกเลิกข้อบังคับต่าง ๆ ในไม่ช้า