นายรี ชาง-ยอง ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศเตือนว่า วิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจเอเชีย โดยได้ซ้ำเติมผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน รวมถึงแนวโน้มด้านนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น
"เรากำลังประเมินผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด เนื่องจากสถานการณ์ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก" นายรีกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว
อนึ่ง ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้เสนอชื่อนายรี ชาง-ยอง ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้คนใหม่
นายรีให้ความเห็นว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจเอเชีย และระยะเวลาของความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลต่อความผันผวนของราคาน้ำมัน ซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจเอเชียอย่างมาก
นอกจากนี้ นายรียังกล่าวว่า อินโดนีเซียที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ไม่มากนัก ในขณะที่เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และอินเดียที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันอย่างมากอาจได้รับผลกระทบเชิงลบได้
ทั้งนี้ นายรีแนะนำให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียลดการอุดหนุนราคาน้ำมัน เนื่องจากนโยบายดังกล่าวมักเป็นประโยชน์ต่อประชากรกลุ่มรายได้สูงที่บริโภคน้ำมันมาก โดยนายรีแสดงความเห็นว่า รัฐบาลต่าง ๆ ควรปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อสนับสนุนครัวเรือนที่มีฐานะยากจน ซึ่งต้องเผชิญปัญหาราคาอาหารที่สูงขึ้นจากวิกฤตครั้งนี้