คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐ (NTSB) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่เครื่องบินของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส รุ่นโบอิ้ง 737 ตกเมื่อเดือนมี.ค.ผ่านมา เดินทางมาถึงประเทศจีนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2 เม.ย.)
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ซึ่งเป็นผู้นำในการตรวจสอบระบุว่า ทีมงานทั้ง 7 คนของ NTSB ประกอบด้วยผู้แทนและที่ปรึกษาด้านเทคนิคที่ได้รับการแต่งตั้ง เพื่อทำหน้าที่หลักคือ การให้ความช่วยเหลือด้านเทคนิคเกี่ยวกับการออกแบบและการผลิตอากาศยาน
ด้าน NTSB ระบุว่า ทางหน่วยงานได้ให้ความช่วยเหลือทีมผู้ตรวจสอบของจีน โดยดาวน์โหลดข้อมูลในอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินของเครื่องบินลำที่เกิดเหตุจากกรุงวอชิงตัน พร้อมทั้งส่งคณะผู้ตรวจสอบของสหรัฐไปยังจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การที่จีนตัดสินใจส่งวัตถุพยานชิ้นสำคัญไปตรวจสอบที่กรุงวอชิงตันนั้น แสดงถึงความเร่งด่วนในการสอบสวนหาสาเหตุ ท่ามกลางช่วงเวลาที่สหรัฐและจีนนั้นมีความขัดแย้งกันในหลายประเด็น
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ MU5735 ได้เดินทางออกจากเมืองคุนหมิงเมื่อเวลา 13.11 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มี.ค. และมีกำหนดเดินทางถึงเมืองกวางโจวภายในเวลา 2 ชั่วโมง แต่ได้ประสบอุบัติเหตุตกลงในหุบเขาใกล้กับเมืองอู๋โจว ส่งผลให้ผู้โดยสาร 132 คนเสียชีวิตทั้งหมด
ส่วนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (31 มี.ค.) สื่อของรัฐบาลจีนระบุว่า การหาสาเหตุที่เครื่องบินตกนั้นต้องดำเนินการโดยเร็วที่สุด หลังการประชุมของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองที่มีประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นประธาน นอกจากนี้ ยังระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่เครื่องบินตกนั้นต้องเผยแพร่อย่างเปิดเผย ทันกำหนดเวลา และเป็นไปอย่างโปร่งใส