"วิลล์ สมิธ" ถูกห้ามร่วมงานออสการ์ 10 ปี รับโทษหลังตบ "คริส ร็อก"

ข่าวต่างประเทศ Saturday April 9, 2022 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สถาบันศิลปะและวิชาการด้านภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ซึ่งเป็นผู้จัดงานประกาศผลรางวัลอะคาเดมี อะวอร์ดหรือรางวัลออสการ์ ได้ประกาศเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ห้าม วิลล์ สมิธ นักแสดงชื่อดังของสหรัฐ เข้าร่วมงานออสการ์เป็นเวลา 10 ปี หลังจากที่เขาบันดาลโทสะเดินขึ้นเวทีไปตบหน้า คริส ร็อก นักแสดงตลกในพิธีมอบรางวัลออสการ์ประจำปีที่นครลอสแอนเจลิสเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ

คณะกรรมการของสถาบันออสการ์ได้ลงมติดำเนินการดังกล่าวในการประชุมที่จัดขึ้น หลังจากที่วิลล์ สมิธประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกของสถาบันฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อรับผิดชอบกับการกระทำที่รุนแรงของตนเอง

"พิธีมอบรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 เป็นการเฉลิมฉลองของบุคคลหลายคนในวงการของเราที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา" เดวิด โรบิน ประธาน และดอว์น ฮัดสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสถาบันออสการ์ระบุในแถลงการณ์

"อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาเหล่านั้นได้ถูกบดบังด้วยพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้และเป็นอันตรายที่คุณสมิธแสดงให้เราเห็นบนเวที"

ด้านวิลล์ สมิธ ระบุในแถลงการณ์ว่า "ผมยอมรับ และเคารพการตัดสินใจของสถาบันออสการ์"

ก่อนหน้านี้ วิลล์ สมิธ ได้ออกแถลงการณ์เพื่อขอโทษคริส ร็อก, ผู้จัดงานแจกรางวัลออสการ์, ผู้ได้รับการเสนอชื่อและผู้ชมสำหรับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น

นอกจากงานแจกรางวัลออสการ์ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่สุดในโลกของภาพยนตร์แล้ว ทางคณะกรรมการยังสั่งห้ามวิลล์ สมิธ เข้าร่วมกิจกรรมและงานอื่น ๆ ทั้งหมดของสถาบันออสการ์ทั้งแบบเข้าร่วมด้วยตัวเองหรือแบบออนไลน์เป็นเวลา 10 ปีด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ในงานแจกรางวัลออสการ์เมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น วิลล์ สมิธได้เดินขึ้นเวทีและตบหน้าคริส ร็อก และยังได้ตะโกนด่าคริส ร็อกถึงสองครั้งเมื่อเดินลงมานั่งที่เดิม หลังจากคริส ร็อกใช้มุกตลกล้อเลียนทรงผมของจาดา พิงคิตต์ สมิธ ภรรยาของวิลล์ สมิธ

จากนั้นไม่ถึงชั่วโมง วิลล์ สมิธ ก็ได้ขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง King Richard และเขาได้กล่าวบนเวทีด้วยน้ำตานองหน้า พร้อมกับขอโทษคณะผู้จัดงานและผู้ร่วมงานทุกคน และหลังจากนั้นเพียงวันเดียว วิลล์ สมิธก็ได้โพสต์ข้อความขอโทษคริส ร็อกอย่างเป็นทางการผ่านทางอินสตาแกรมด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ