นายเฉิน ชิห์-ชุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันเปิดเผยว่า การเจรจาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของเด็กจากบริษัทไฟเซอร์/ไบออนเทคต้องหยุดชะงัก เนื่องจากไฟเซอร์ไม่มีสิทธิ์จำหน่าย ขณะที่ไบออนเทคกับบริษัทคู่ค้าจากจีนไม่ได้เป็นผู้ผลิตวัคซีนดังกล่าว
ทั้งนี้ สิทธิ์ในการจำหน่ายวัคซีนดังกล่าวในกลุ่ม Greater China (จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า) เป็นของบริษัทไบออนเทคและเซี่ยงไฮ้ โฟซุน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายจากจีน โดยมีการทำข้อตกลงขายวัคซีนที่ใช้ในกลุ่มวัยผู้ใหญ่เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ไต้หวันกล่าวหาว่าจีนแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งทางจีนออกมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภายหลังรัฐบาลไต้หวันอนุญาตให้บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC) ผู้ผลิตชิป, มูลนิธิฉือจี้ ซึ่งเป็นหน่วยงานทางพุทธศาสนา และนายเทอร์รี กัว มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทฟ็อกซ์คอนน์ เจรจาจัดซื้อวัคซีนในนามของรัฐบาลไต้หวัน จึงทำให้สามารถซื้อวัคซีนได้ในที่สุด
นายเฉินระบุว่า ปัญหาในตอนนี้คือมีเพียงไฟเซอร์ที่ผลิตวัคซีนสำหรับเด็ก แต่ไม่มีสิทธิ์ขายให้ไต้หวัน โดยสิทธิ์ดังกล่าวอยู่กับบริษัทไบออนเทคและโฟซุน
นายเฉินยังกล่าวว่า "ไฟเซอร์ผลิตและบรรจุขวดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก ส่วนไบออนเทคไม่มีวิธีการจัดส่งนี้ แต่ไฟเซอร์ก็ไม่มีสิทธิ์ขายวัคซีนให้จีน ฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน มันเลยเป็นสัญญาที่ซับซ้อน"
นายเฉินเสริมว่า เขาไม่พบ "การแทรกแซงจากภายนอก" ในการเจรจา และรัฐบาลกำลังพยายามที่จะทำสัญญากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้นายเฉินกล่าวกับรัฐสภาว่า การเจรจาดำเนินมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไบออนเทคและโฟซุนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ ส่วนไฟเซอร์ระบุว่ายังไม่สามารถให้ความเห็นได้