ผลการสำรวจของ Indikator Politik Indonesia พบว่า คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ผู้นำอินโดนีเซีย ได้ตกต่ำลงเหลือเพียง 59.9% ในเดือนเม.ย. จากเดิมที่พุ่งแตะระดับ 75.3% ในช่วงต้นปีนี้
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า ผู้ถูกสำรวจมากกว่า 60% ต้องการให้รัฐบาลยุติการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อแก้ไขปัญหาราคาแพง และการขาดแคลนภายในประเทศ
ทั้งนี้ ประชาชนต่างไม่พอใจต่อการพุ่งของราคาน้ำมันปรุงอาหาร จนส่งผลให้นักศึกษาออกมาชุมนุมในหลายเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล
ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ทำให้ปธน.วิโดโดประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 เม.ย. เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปรุงอาหารในประเทศ และหวังบรรเทาความไม่พอใจของประชาชน
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก
การประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซียสร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก และทำให้น้ำมันพืชประเภทอื่นต่างพุ่งขึ้น ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขาดแคลนสินค้าในตลาด
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียออกมาชี้แจงวานนี้ว่า คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มที่มีการประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จะมีผลบังคับใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มโอเลอิน ซึ่งได้จากการนำน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์มาผ่านกระบวนการฟอกสี ขจัดกลิ่น และลดกรดไขมันอิสระ (RBD olein) เท่านั้น แต่จะไม่รวมถึงการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบแต่อย่างใด ซึ่งได้ช่วยคลายความกังวลในตลาดจากเดิมที่วิตกว่าอินโดนีเซียจะระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มทุกประเภท