กรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองหลวงของจีนได้สั่งปิดสถานที่อีกหลายแห่งในวันนี้ (29 เม.ย.) ซึ่งรวมถึงโรงยิม, ศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์ และอะพาร์ตเมนต์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามผู้ติดเชื้อเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่ประชาชนมีความไม่พอใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกับการสั่งล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ซึ่งการล็อกดาวน์ดำเนินมาล่วงเข้าสู่เดือนที่ 2 แล้ว
รายงานระบุว่า เทศบาลกรุงปักกิ่งได้สั่งให้โรงเรียนทุกแห่งหยุดการเรียนการสอนตั้งแต่วันนี้ก่อนวันหยุดประจำชาติเนื่องในวันแรงงาน และยังไม่มีการกำหนดวันเปิดโรงเรียน
ส่วนที่เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันพฤหัสบดี (28 เม.ย.) จำนวน 9,970 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 52 ราย โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากระดับ 9,764 รายในวันพุธ และเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 วัน
นอกจากนี้ รายงานระบุว่า เมืองหางโจวซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านอีคอมเมิร์ซของจีน ได้เริ่มปูพรมตรวจเชื้อโควิด-19 ขนาดใหญ่ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ส่วนที่เมืองฉินหวงเต่า และเมืองอี้อู ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์ตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ได้เข้าสู่การล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบหรือบางส่วนแล้วในขณะนี้
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ และความเป็นไปได้ที่จีนจะสั่งล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งด้วยนั้น ยังคงเป็นปัจจัยลบที่ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกในขณะนี้ โดยล่าสุดนายลูคา แมสทรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของแอปเปิลเตือนว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ของบริษัทอาจเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการที่จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ รวมถึงเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของจีน โดยคาดว่าผลกระทบดังกล่าวอาจจะฉุดยอดขายของแอปเปิลราว 4-8 พันล้านดอลลาร์