นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นของนครเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า จีนเสี่ยงเผชิญคลื่นสึนามิของการติดเชื้อโควิด-19 ที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 1.6 ล้านคน หากรัฐบาลยกเลิกการบังคับใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid Policy) และปล่อยให้ไวรัสโอมิครอนซึ่งสามารถแพร่เชื้อได้ในระดับสูง แพร่ระบาดออกไปโดยไม่สามารถควบคุมได้
ผลการศึกษาที่เผยแพร่โดยวารสารเนเจอร์ (Nature) ระบุว่า ระดับของภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการส่งเสริมการฉีดวัคซีนในเดือนมี.ค.ของจีนนั้น จะไม่เพียงพอในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอน และจะทำให้หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) ไม่สามารถแบกรับภาระได้ เมื่อพิจารณาจากอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำในกลุ่มผู้สูงอายุและการเน้นใช้วัคซีนผลิตในประเทศที่มีประสิทธิภาพน้อยของจีน
การศึกษาฉบับนี้ระบุว่า หากรัฐบาลจีนไม่บังคับใช้มาตรการที่เข้มงวด เช่น การตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นวงกว้างและการล็อกดาวน์ การแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อชนิดแสดงอาการของโรคมากถึง 112.2 ล้านคน, ผู้ป่วยใน 5.1 ล้านคน และผู้เสียชีวิต 1.6 ล้านคน โดยคาดว่าการแพร่ระบาดระลอกใหญ่จะเกิดขึ้นระหว่างเดือนพ.ค. ? ก.ค.
เซี่ยงไฮ้รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,487 รายในวันอังคาร (10 พ.ค.) ซึ่งลดลงจากระดับ 3,014 รายในวันจันทร์ โดยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกสถานที่กักตัว ขณะที่เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้กล่าวว่าจำเป็นต้องรอให้ไม่พบการแพร่ระบาดในชุมชนติดต่อกันเป็นเวลา 3 วันจึงจะสามารถเริ่มผ่อนปรนมาตรการควบคุมได้ ซึ่งจนถึงขณะนี้ประชาชนหลายล้านคนในเซี่ยงไฮ้ต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ขณะที่กรุงปักกิ่งรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 37 คนในวันอังคาร ลดลงจากระดับ 74 รายในวันจันทร์
งานวิจัยดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยปักกิ่งนั้น มีขึ้นหลังนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้จีนทบทวนการใช้กลยุทธ์โควิดเป็นศูนย์อีกครั้ง โดยระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผลอีกต่อไป ขณะที่ไวรัสโอมิครอนแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องและเศรษฐกิจของจีนกำลังได้รับความเสียหาย