นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้สั่งให้ทุกเมืองดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ หลังมีรายงานเป็นครั้งแรกว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บริเวณพรมแดนของประเทศ
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า "เกิดสถานการณ์ร้ายแรงขึ้น เนื่องจากพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในเขตแดนของเรา" โดยในการประชุมพรรคแรงงานในวันนี้ (12 พ.ค.) ซึ่งนายคิมเข้าร่วมด้วยนั้น เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้ประกาศยกระดับมาตรการกักกันโรคทั่วประเทศขึ้นสู่ "ภาวะฉุกเฉินสูงสุด"
นายคิมได้สั่งให้ทุกเมืองและทุกมณฑลทั่วประเทศดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ของตน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสที่อันตรายดังกล่าว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เกาหลีเหนือไม่เคยรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศแต่อย่างใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐ, ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ เคลือบแคลงสงสัย
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังปฏิเสธที่จะรับวัคซีนจากต่างประเทศด้วย โดยรายงานระบุว่า การจัดส่งวัคซีนตามแผนนั้นได้ถูกระงับ เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
ทั้งนี้ มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะการปิดพรมแดนที่ติดกับจีนเป็นเวลามากกว่า 2 ปี ซึ่งจีนนั้นเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ โดยมาตรการดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศ