องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในหลายประเทศ อย่างไรก็ดี อัตราการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำ
แพทย์หญิงมาเรีย แวน เคอร์คอฟ หัวหน้าด้านเทคนิคของ WHO เปิดเผยทางออนไลน์ว่า ขณะนี้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.4 ไม่ถึง 700 ราย ในอย่างน้อย 16 ประเทศ และพบสายพันธุ์ย่อย BA.5 แล้วกว่า 300 ราย ใน 17 ประเทศเป็นอย่างน้อย โดยมีอัตราการตรวจพบสูงในประเทศแอฟริกาใต้
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) ระบุว่า ณ วันที่ 6 พ.ค. ประเทศแอฟริกาใต้พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อย BA.4 จำนวน 395 ราย และสายพันธุ์ย่อย BA.5 จำนวน 134 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดที่พบเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
ส่วนออสเตรียนั้นพบสายพันธุ์ย่อย BA.4 เพียง 36 ราย, อังกฤษพบ 24 ราย, สหรัฐ 20 ราย และเดนมาร์ก 17 ราย ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เช่น เบลเยียม, อิสราเอล, เยอรมนี, อิตาลี, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงบอตสวานา พบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 10 ราย
ขณะที่สายพันธุ์ย่อย BA.5 นั้น พบในโปรตุเกส 57 ราย, เยอรมนี 52 ราย และอังกฤษ 17 ราย ส่วนประเทศอื่น ๆ อาทิ สหรัฐ, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, ออสเตรีย, เบลเยียม, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย และแคนาดา ฯลฯ พบผู้ติดเชื้อไม่ถึง 10 ราย
รายงานยังระบุว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อที่พบนั้นจะอยู่ในระดับต่ำ แต่การระบาดที่กระจายไปในภูมิภาคต่าง ๆ ก็บ่งชี้ได้ว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์แพร่ระบาดได้สำเร็จ
แพทย์หญิงเคอร์คอฟเพิ่มเติมว่า แม้ไวรัสสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 จะไม่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อมีอาการรุนแรงมากขึ้นเมื่อเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์เดิมก็ตาม แต่ WHO จะคอยจับตาดูสายพันธุ์ดังกล่าวว่าจะระบาดแทนที่สายพันธุ์ BA.2 เป็นสายพันธุ์หลักของโลกได้หรือไม่