รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์เปิดเผยว่า สิงคโปร์จะกลับมาสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 5 ณ สนามบินชางงีอีกครั้ง หลังจากหยุดดำเนินการไปเป็นเวลา 2 ปี โดยการจราจรทางอากาศ รวมถึงผู้โดยสารทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกได้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายเอส อิสวารัน รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์กล่าวในระหว่างการประชุมสุดยอดด้านการบินในวันนี้ (17 พ.ค.) ว่า การจราจรทางอากาศในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.แตะที่ประมาณ 40% ของระดับก่อนการแพร่ระบาด
นายอิสวารันระบุว่า "เมื่อพิจารณาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์การบินทางอากาศในปัจจุบันและที่คาดการณ์ เรามีแรงกระตุ้นใหม่ในการรักษาขีดความสามารถด้านโครงสร้างพื้นฐานของเราสำหรับการขยายตัว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สิงคโปร์เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญของเอเชีย โดยในปี 2562 ผู้โดยสารมากกว่า 68 ล้านคนเดินทางผ่านสนามบินชางงี
นอกจากนี้ นายอิสวารันระบุเสริมว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้ยุติการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อประเมินแนวโน้มการขยายตัวด้านการบินอีกครั้ง ตลอดจนทบทวนการออกแบบอาคารผู้โดยสารเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางหลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ สิงคโปร์วางแผนที่จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 5 ในอีก 2-3 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการที่คาดไว้ในช่วงกลางทศวรรษ 2030 (2573)