นายเอริค เฟอร์นันเดส ซัลดานา นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยไอบีโร-อเมริกันจากประเทศเม็กซิโก ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุสังหารหมู่ในโรงเรียน Robb Elementary School ในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัสเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เหตุดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการขาดมาตรการควบคุมอาวุธในสหรัฐ และผลจากการปล่อยให้ค้าอาวุธได้ "ตามอำเภอใจ" ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการป้องกันเหตุกราดยิงในอนาคต
ทั้งนี้ นักวิชาการคนดังกล่าวระบุว่า แม้ว่าจะมีเสียงเรียกร้องจากสาธารณชนให้มีกฏหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนที่เข้มงวดขึ้นทุกครั้งที่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ แต่เยาวชนอเมริกันที่มีอายุเพียง 18 ปีก็ยังคงหาซื้ออาวุธทางการทหารได้แทบจะทุกที่ในสหรัฐ "โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดจากรัฐหรือรัฐบาลกลาง"
นายเฟอร์นันเดสได้ระบุในจดหมายข่าวของมหาวิทยาลัยว่า การต่อรองกับกลุ่มผู้สนับสนุนอาวุธปืน (Gun lobby) ของสหรัฐซึ่งเป็นที่รู้กันว่ามีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเงินทุนในการหาเสียงเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องที่ "ยากมาก"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 คนจากคมกระสุนปืนไรเฟิลของผู้ก่อเหตุวัย 18 ปี ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นเด็กนักเรียน 19 คนและครู 2 คนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 พ.ค.) นับเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่สะเทือนขวัญชาวสหรัฐและชาวโลก นอกจากนี้เหตุการณ์ดังกล่าวยังเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่มีการบุกยิงในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก จนมีผู้เสียชีวิต 10 ราย
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองยูวัลดีเผยให้เห็นว่า เหตุกราดยิงเช่นนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดำเนินต่อไปตราบใดที่ยังไม่มีกลไกใด ๆ มาจำกัดการซื้อขายอาวุธปืน ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ทำกำไรมากที่สุดในสหรัฐ" นายเฟอร์นันเดสกล่าว