คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 100 รายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หลังใช้มาตรการล็อกดาวน์มานานหลายเดือน
ข้อมูลจาก NHC ระบุว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในวันจันทร์ (30 พ.ค.) อยู่ที่ 97 ราย โดยเซี่ยงไฮ้ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 31 ราย ขณะที่กรุงปักกิ่งพบ 18 ราย ซึ่งทั้งสองเมืองได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเคลื่อนย้ายลงแล้ว หลังจากที่ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้สำเร็จ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจีนใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อสกัดการระบาดมาเป็นเวลาหลายเดือน รวมถึงการล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนานเกือบ 2 เดือน และการห้ามไม่ให้ประชาชนเดินทางไปยังพื้นที่อื่น ๆ
อย่างไรก็ดี แม้การดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนจะควบคุมการระบาดครั้งนี้ได้ แต่จีนก็เผชิญกับความท้าทายจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว ซึ่งกว่าจะเห็นผล เจ้าหน้าที่ก็ต้องดิ้นรนหาทางยับยั้งการระบาดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้จีนยังคงติดอยู่ในวงจรการล็อกดาวน์ที่ต้องแลกมาด้วยราคาแพง ขณะที่ประเทศอื่นทั่วโลกปรับตัวที่จะอยู่ร่วมกับโควิดแล้ว
นอกจากนี้ การใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ยังต้องแลกมากับความเสียหายทางเศรษฐกิจและสังคม ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก และทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังตือนถึงความเสี่ยงของการระบาดทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในเมืองตามแนวชายแดนติดกับเกาหลีเหนือ ขณะที่บางพื้นที่ในเมืองเทียนจินยังคงล็อกดาวน์หลังพบผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น นอกจากนี้มณฑลเหอเป่ยซึ่งติดกับกรุงปักกิ่ง ยังรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นด้วย