นายบิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์กล่าวว่า เขาไม่สนใจที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกับกล่าวโจมตีคริปโทเคอร์เรนซี และ NFT (Non-Fungible Tokens) ว่า เป็นสิ่งหลอกลวงบนพื้นฐานของทฤษฎีที่โง่เขลา
"NFT ภาพลิงที่มีราคาแพงนั้นจะช่วยทำให้โลกดีขึ้นได้อย่างมาก" นายเกตส์กล่าวเหน็บแนมในการประชุมโลกร้อนซึ่งจัดขึ้นโดยเทคครันช์ (TechCrunch) ซึ่งเป็นเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ออนไลน์ของสหรัฐ โดยเขาหมายถึง Bored Ape Yacht Club (BAYC) ซึ่งเป็น NFT ภาพลิงขี้เบื่อซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของบรรดาบุคคลที่มีชื่อเสียง
ในการประชุมดังกล่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (14 มิ.ย.) นายเกตส์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในฐานะผู้ก่อตั้งกองทุน Breakthrough Energy Ventures โดยเขากล่าวถึงความยากลำบากของการค้นหาวิศวกรในซิลิคอนแวลลีย์เพื่อให้เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และการผลิตเหล็ก ซึ่งเป็นภาคส่วนที่จำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ นายเกตส์ยังได้ปกป้องความพยายามในการจัดตั้งธนาคารดิจิทัลซึ่งเขาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนผ่านทางมูลนิธิเพื่อการกุศลต่าง ๆ ของเขา โดยเขาอธิบายว่า มีประสิทธิภาพมากกว่าคริปโทเคอร์เรนซีหลายร้อยเท่า
นายเกตส์ได้วิพากษ์วิจารณ์คริปโทเคอร์เรนซีมาโดยตลอด และเคยโต้เถียงกับนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทเทสลาเกี่ยวกับคำถามที่ว่า บิตคอยน์มีความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับนักลงทุนรายย่อย และการขุดเหมืองบิตคอยน์สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่
ราคาบิตคอยน์ทรุดตัวลงกว่า 15% เมื่อวันจันทร์ (13 มิ.ย.) และร่วงลงอีก 5.4% ในวันอังคาร (14 มิ.ย.) โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการที่นักลงทุนแห่เทขายคริปโทเคอร์เรนซี อันเนื่องมาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสหรัฐและข่าวว่าบริษัทเซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ระงับการถอนคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้คอลเลกชันต่าง ๆ ของ NFT ทรุดตัวลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึง BAYC ด้วย