เหตุการณ์เพลิงไหม้ในฮ่องกงซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินโลกเมื่อวันอังคาร (21 มิ.ย.) ส่งผลให้ประชาชนกว่า 20,000 ครัวเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 2 วัน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยทางการฮ่องกงได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ การตัดกระแสไฟฟ้าเป็นวงกว้างดังกล่าวในฮ่องกงนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทซีแอลพี พาวเวอร์ (CLP Power) ผู้ให้บริการไฟฟ้าของฮ่องกงระบุว่า สะพานสายเคเบิลไฟฟ้าแห่งหนึ่งในเขตหยวนหลงได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นเมื่อวันอังคารในเวลาประมาณ 19.00 น. ส่งผลให้ต้องทำการตัดกระแสไฟที่ส่งให้กับผู้ใช้ประมาณ 160,000 ราย อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น
บริษัทซีแอลพี พาวเวอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า การจ่ายไฟฟ้าให้กับสถานบริการที่จำเป็นต่าง ๆ รวมถึงโรงพยาบาลและระบบรถไฟได้รับการแก้ไขเป็นปกติเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องใช้เวลาอีก 2 วันในการแก้ไขการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับลูกค้า 20,000 ราย
ทางการฮ่องกงระบุว่า "เราเข้าใจดีว่า เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเช่นนี้ ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประชาชน และเราเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" โดยอุณหภูมิสูงสุดที่ทางการฮ่องกงคาดการณ์ไว้ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (22-23 มิ.ย.) อยู่ที่ 31 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสูง
นอกจากนี้ ทางการฮ่องกงได้แถลงเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้กำชับให้บริษัทซีแอลพี พาวเวอร์ตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ และส่งรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว
ด้านสำนักงานการศึกษาเปิดเผยว่า โรงเรียนหลายสิบแห่งในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ และจำเป็นต้องระงับการเรียนการสอนในวันนี้ (22 มิ.ย.)