บรรดานักวิจัยในโปรตุเกสเปิดเผยว่า ไวรัสโรคฝีลิงอาจจะมีการกลายพันธุ์มากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักรและสหรัฐ ขณะที่มีการตรวจพบเป็นครั้งแรกในไต้หวันและโคลอมเบีย
นักวิทยาศาสตร์ได้เปิดเผยผลวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ เมดิซีน (Nature Medicine) ในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) ระบุว่า สายพันธุ์ล่าสุดของไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกควบคุมได้ในพื้นที่บางส่วนของแอฟริกานั้น มีลักษณะทางพันธุกรรมประมาณ 50 แบบเมื่อเทียบกับไวรัสฝีดาษลิงที่แพร่ระบาดในปี 2561-2562
พวกเขาพบว่า ไวรัสฝีดาษลิงยังคงมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่มีการแพร่ระบาดในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในรหัสพันธุกรรม, สายพันธุ์ย่อย และยีนที่หลุดหายไป (deleted gene)
เจา เปาโล โกเมส จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติในลิสบอนและหนึ่งในผู้เขียนรายงานวิจัยดังกล่าวระบุว่า "เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดที่จะพบการกลายพันธุ์จำนวนมากของไวรัสฝีดาษลิงในปี 2565"
"ในความเป็นจริงนั้น เมื่อพิจารณาถึงลักษณะจีโนมของไวรัสชนิดนี้แล้ว ไม่น่าจะมีการกลายพันธุ์มากกว่าหนึ่งหรือสองครั้งเกิดขึ้นในแต่ละปี"
ไวรัสฝีดาษลิงนั้นมีลักษณะเสถียรกว่าและกลายพันธุ์ช้ากว่าไวรัสโคโรนาซึ่งทำให้เกิดโรคโควิด-19 โดยในอดีตนั้น โรคฝีดาษลิงไม่ได้แพร่ระบาดได้ง่ายจากคนสู่คน
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า การกลายพันธุ์ที่พบในไวรัสที่แพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบันนั้น อาจเปลี่ยนแปลงลักษณะเหล่านั้น หรือความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของไวรัสดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น