เขตปกครองพิเศษมาเก๊าดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนจำนวนกว่า 600,000 คนในวันนี้ (27 มิ.ย.) เป็นรอบที่ 3 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดหลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเก๊าได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์อาคารที่อยู่อาศัยหลายแห่ง และกักตัวประชาชนมากกว่า 5,000 คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 38 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 มิ.ย.) ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้นอยู่ที่ 299 รายในการระบาดรอบปัจจุบัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มาเก๊า ซึ่งเป็นศูนย์กลางการพนันใหญ่ที่สุดในโลก ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนไปแล้ว 2 รอบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการตรวจหาเชื้อรอบที่ 3 นั้นคาดว่าจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.)
รัฐบาลได้ขอให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พักอาศัยให้มากที่สุด และสั่งปิดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง รวมถึงผับบาร์ ร้านทำผม และสวนสาธารณะกลางแจ้ง โดยอนุญาตให้ร้านอาหารจำหน่ายได้เฉพาะการสั่งซื้อกลับบ้านเท่านั้น
ขณะเดียวกัน รัฐบาลมาเก๊าระบุว่า บ่อนคาสิโนยังได้รับอนุญาตให้เปิดได้ เพื่อให้ประชาชนยังมีงานทำต่อไป
มาตรการที่เข้มงวดดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมาเก๊าปลอดจากผู้ติดเชื้อโควิด นับตั้งแต่การแพร่ระบาดเมื่อเดือนต.ค. 2564 โดยก่อนหน้านี้ มาเก๊าไม่เคยเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโอมิครอนมาก่อน
ทั้งนี้ มาเก๊าปฏิบัติตามนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-Covid) ของจีนอย่างเคร่งครัด ซึ่งมุ่งกำจัดการแพร่ระบาดให้สิ้นซาก โดยสวนทางกับประเทศอื่นทั่วโลกที่พยายามอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด-19