องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ค.) ว่า มีความจำเป็นเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในยุโรป เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น 3 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
WHO ระบุว่า ยุโรปเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสฝีดาษลิงทั่วโลก โดย 90% ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันนั้นพบอยู่ในประเทศแถบยุโรป
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้น 3 เท่านับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. โดยมีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันจำนวน 4,500 รายใน 31 ประเทศของยุโรป
นายอองรี คลูเก หัวหน้าเจ้าหน้าที่ของ WHO ภาคพื้นยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลต่าง ๆ เพิ่มความพยายามในการป้องกันโรคฝีดาษลิงไม่ให้เกิดขึ้นเองในทวีปยุโรป โดยเตือนว่าเวลาเป็นสิ่งสำคัญ
"การดำเนินการอย่างเร่งด่วนและประสานงานกันเป็นสิ่งจำเป็น หากเราต้องรีบสกัดกั้นการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคนี้" นายคลูเก กล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว (25 มิ.ย.) WHO ลงมติไม่ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังระดับสูงสุดของ WHO
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า โรคฝีดาษลิงเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพที่มีวิวัฒนาการ โดยนายแพทย์ทีโดรสเรียกร้องให้รัฐบาลต่าง ๆ เพิ่มการเฝ้าระวัง ติดตามการติดเชื้อ และรับประกันว่าผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจะสามารถเข้าถึงวัคซีนและยาต้านไวรัสได้
นายคลูเกกล่าวว่า WHO มีแนวโน้มที่จะพิจารณาใหม่อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ว่า โรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพทั่วโลกหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดมีการวิวัฒนาการอย่างรวดเร็วและมีลักษณะฉุกเฉิน"
เขากล่าวว่า 99% ของผู้ป่วยฝีดาษลิงในยุโรปเป็นผู้ชายอายุระหว่าง 21 ถึง 40 ปี และผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ให้ข้อมูลทางประชากรศาสตร์นั้นระบุว่า เป็นผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน