เจ้าหน้าที่มาเก๊าได้เริ่มใช้โรงแรมชื่อดังอีก 2 แห่งในคาสิโนรีสอร์ทเป็นสถานพยาบาลสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันนี้ (8 ก.ค.) ขณะที่พยายามเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในศูนย์กลางการพนันใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้
ทั้งนี้ โรงแรมดังกล่าวได้แก่ ปีกฝั่งตะวันออกของโรงแรมแกรนด์ ลิสบัว พาเลซ (Grand Lisboa Palace) ซึ่งเป็นของบริษัทเอสเจเอ็ม โฮลดิงส์ (SJM Holdings) และโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท โฮเทล (Grand Hyatt) ซึ่งเป็นของบริษัทเมลโก รีสอร์ท (Melco Resorts) โดยทั้งสองโรงแรมมีห้องพักรวมกันทั้งหมดเกือบ 800 ห้อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางการมาเก๊าได้ใช้โรงแรมแซนด์ ไชน่า เชอราตัน (Sands China's Sheraton hotel) และลอนดอนเนอร์ รีสอร์ท (Londoner resort) เป็นศูนย์กักตัวผู้ติดเชื้อโควิด-19
เจ้าหน้าที่ระบุว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้น เนื่องจากมาเก๊ามีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 128 รายในวันพฤหัสบดี (7 ก.ค.) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 1,215 ราย และประชาชนมากกว่า 15,000 รายต้องถูกกักตัว
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการล็อกดาวน์อาคารที่อยู่อาศัย 22 แห่งทั่วมาเก๊า พร้อมทั้งเดินหน้าตรวจเชื้อเป็นวงกว้างรอบที่ 5 สำหรับผู้อยู่อาศัยทั้งหมด
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวมาเก๊ามากกว่า 90% ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว แต่ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มาเก๊าต้องรับมือกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ มาเก๊าปฏิบัติตามนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" (Zero-covid) ของจีนที่มีจุดมุ่งหมายในการขจัดการระบาดให้หมดสิ้นไป ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มของประเทศทั่วโลกที่พยายามจะอยู่ร่วมกับไวรัสโควิด