สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมืองหวู่กังซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเหล็กในมณฑลเหอหนานของจีนประกาศล็อกดาวน์ทั่วเมืองเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. ส่งผลให้เป็นเมืองล่าสุดที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเมืองหวู่กังมีประชากรประมาณ 300,000 คน และเป็นที่ตั้งของบริษัทหวู่กัง ไอรอน แอนด์ สตีล โค โดยคำสั่งล็อกดาวน์ดังกล่าวจะทำให้ผู้อยู่อาศัยทุกคนต้องอยู่กับบ้านนอกจากจะเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19
แม้ว่าอาจจะเป็นครั้งแรกที่เมืองของจีนถูกสั่งล็อกดาวน์เพียงเพราะพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 ราย แต่จีนก็มีประวัติในการรับมืออย่างรวดเร็วต่อผู้ติดเชื้อเพียง 1 รายหรือไม่กี่ราย ความพยายามดังกล่าวได้รับการสนับสนุนหลังจากเซี่ยงไฮ้นั้นตอบสนองต่อการแพร่ระบาดในเบื้องต้นอย่างเชื่องช้า ซึ่งนำไปสู่วิกฤติที่ต้องสั่งให้ประชาชน 25 ล้านคนต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 2 เดือนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ (Zero-covid) ของจีน ซึ่งถูกทดสอบอีกครั้งด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยที่ทำให้เกิดผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ซึ่งเคยใช้นโยบาย Zero-covid เช่นกันก่อนจะเปลี่ยนแผนและทำตามทั่วโลกด้วยการอยู่ร่วมกับโควิด-19 นั้น ก็เคยสั่งล็อกดาวน์ทั้งประเทศเมื่อเดือนส.ค. 2564 หลังจากพบผู้ติดเชื้อเพียง 1 รายในชุมชน