รัฐบาลอินเดียมียอดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พุ่งแตะ 2 พันล้านโดสแล้วเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) โดยรัฐบาลกำลังแจกจ่ายวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ทุกคน ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียกล่าวยกย่องความสำเร็จของการฉีดวัคซีนครั้งนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "อินเดียสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง!" โดยเป็นการเฉลิมฉลองโครงการรณรงค์ฉีดวัคซีนของอินเดียที่มีขนาดใหญ่และยาวนานที่สุดในโลก ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านกล่าวหานายโมดีว่าจัดการปัญหาโควิด-19 ผิดพลาด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอ้างว่าเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน อย่างไรก็ดี รัฐบาลอินเดียปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ 525,709 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 49 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอินเดียเพิ่มขึ้น 20,528 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินเดียได้ยกเลิกมาตรการส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับโควิดไปแล้ว และการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เร่งรณรงค์ให้ประชาชนไปฉีดเข็มบูสเตอร์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นในหลายรัฐทางตะวันออกของรัฐอัสสัม, รัฐเบงกอลตะวันตก และรัฐกรณาฏกะทางตอนใต้
ทั้งนี้ โควิชิลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในอินเดียนั้น คิดเป็น 80% ของยอดฉีดวัคซีนทั้งหมด ส่วนวัคซีนยี่ห้ออื่น ๆ ได้แก่ โควาซิน (Covaxin) และคอร์บีแวกซ์ (Corbevax) ที่พัฒนาในประเทศ และสปุตนิก วี (Sputnik V) ของรัสเซีย