สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พื้นที่ต่าง ๆ ของจีนมีแนวโน้มเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วง 10 วันข้างหน้า ขณะที่คลื่นความร้อนแผ่ปกคลุมประเทศ โดยในวันนี้ (23 ก.ค.) หอสังเกตการณ์แห่งชาติของจีนยังคงออกประกาศเตือนระดับสีเหลืองสำหรับอุณหภูมิที่สูงขึ้น เนื่องจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงได้กระจายไปยังในหลายภูมิภาคของประเทศ
ในบางมณฑล ทางการจีนคาดการณ์ว่า ระดับความร้อนจะเพิ่มขึ้นถึงอย่างน้อย 40 องศาเซลเซียส และรัฐบาลแห่งชาติได้เตือนว่า อาจจะเกิดไฟป่าขึ้นได้ โดยระดับปรอทจะเริ่มพุ่งขึ้นในวันนี้ (23 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันร้อนที่สุด (Big Heat) ในปฏิทินจีนแบบดั้งเดิม
ในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกเฉียงใต้นั้น บางเมืองออกประกาศเตือนระดับสีแดง ซึ่งเป็นการเตือนระดับสูงสุด
ตามปกตินั้น มณฑลเจ้อเจียงมีอุณหภูมิสูงสุดในช่วง 20-29 องศาเซลเซียสในเดือนก.ค. แต่ในปีนี้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเตือนว่า อุณหภูมิจะพุ่งแตะ 40 องศาเซลเซียสในช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้า
อุณหภูมิของเซี่ยงไฮ้แตะระดับ 40.9 องศาเซลเซียสในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นวันที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2416 และแตะระดับนี้เป็นครั้งแรกในปี 2560 และเซี่ยงไฮ้ได้ออกประกาศเตือนความร้อนสูงสุดครั้งที่ 3 ของฤดูร้อนนี้
ในการรับมือกับอากาศที่ร้อนระอุ ประชาชนหลายคนในจีนหันไปใช้เครื่องปรับอากาศในบ้าน สำนักงาน และโรงงาน อย่างไรก็ตาม อาจทำให้เกิดปัญหากับโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ
ความต้องการใช้ไฟฟ้าอาจแตะระดับสูงสุดใหม่ในช่วงฤดูร้อน และกระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีนได้เตือนว่า การปฏิบัติการที่ปลอดภัยจะเผชิญกับการทดสอบที่รุนแรง
ทั้งนี้ คลื่นความร้อนได้เกิดบ่อยขึ้นทั่วโลก โดยรุนแรงขึ้นและยาวนานขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์
โลกได้ร้อนขึ้นแล้วประมาณ 1.1 องศาเซลเซียสนับตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมเริ่มต้นขึ้น และอุณหภูมิจะยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลทั่วโลกจะลดการปล่อยมลพิษลงได้อย่างมาก