นางจาร์ซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เผยถึงสัญญาณบ่งชี้ว่า โรคโควิด-19 เริ่มลดลงแล้ว แม้ว่ายอดผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดมาตั้งแต่เดือนมี.ค.ก็ตาม
กระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในนิวซีแลนด์ อยู่ที่ 6,910 รายในวันนี้ (25 ก.ค.) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไวรัสโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.5 ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อของนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 59,445 รายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 836 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. โดยในช่วงนั้นมีผู้เข้ารักษาตัวอยู่ที่ 842 ราย
นางอาร์เดิร์นให้สัมภาษณ์ในระหว่างการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า เจ้าหน้าที่ระบุว่า อัตราการพบเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียนั้นลดลงแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่ายอดผู้ติดเชื้ออาจลดลงตามไปด้วย
"แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะลดลง แต่เราอาจต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์เพื่อดูว่ายอดผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจะลดลงด้วยหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องจับตายอดผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลช่วงไม่กี่วันข้างหน้า" นางอาร์เดิร์นกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นิวซีแลนด์ปิดพรมแดนมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งขณะนั้นไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก นอกจากนี้ นิวซีแลนด์ยังใช้มาตรการล็อกดาวน์และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ โดยเริ่มกลับมาเปิดประเทศเมื่อเดือนก.พ.ปีนี้ และจะยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดช่วงปลายเดือนก.ค.นี้
อย่างไรก็ดี ทางการนิวซีแลนด์เองก็ระบุว่า ยังมียอดผู้ติดเชื้อที่ไม่ได้รายงานอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ นายกฯ นิวซีแลนด์ยังระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานอาจน้อยกว่าความเป็นจริงในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมา