รัฐบาลสหรัฐจะเริ่มโครงการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ป้องกันโรคโควิด-19 ที่ปรับสูตรใหม่ในเดือนก.ย.นี้ เนื่องจากบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าทั้ง 2 บริษัทสามารถจัดหาวัคซีนปรับสูตรใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวให้กับสหรัฐ
สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่นานที่บริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาจะส่งมอบวัคซีนเข็มบูสเตอร์ที่มีการปรับสูตรใหม่ คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจึงได้ตัดสินใจเพิ่มขอบเขตคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 2 โดยคาดว่าวัคซีนที่มีการปรับสูตรใหม่นี้จะสามารถป้องกันไวรัสโอมิครอนสายพันธ์ย่อย BA.5 ได้ดีกว่า แม้ว่าข้อมูลในขณะนี้ยังคงเป็นการศึกษาในขั้นต้นก็ตาม
ที่ผ่านมานั้น มีเพียงชาวอเมริกันอายุมากกว่า 50 ปีและกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 12 ปีที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องท่านั้นที่เข้าข่ายผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 2 แต่คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ตกลงที่จะกำหนดเป้าหมายใหม่ ด้วยการให้ประชาชนทุกคนเข้ารับวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 2 ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนทุกคนในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้ ก่อนที่จะถึงช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คาดว่าไวรัสจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ คาดว่าชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ทุกคนจะได้รับอนุญาตให้เข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ที่มีการปรับสูตรใหม่ และคาดว่าเด็ก ๆ ก็จะสามารถเข้ารับวัคซีนดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา คณะที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้แนะนำให้มีการปรับสูตรวัคซีนเข็มบูสเตอร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ เพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยที่ระบาดอย่างหนัก โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ FDA ระบุว่า พวกเขาต้องการวัคซีนที่ยับยั้งไวรัสสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 ได้มากกว่าวัคซีนป้องกันสายพันธุ์ BA.1 ซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดเมื่อฤดูหนาวที่ผ่านมา
ทางด้านบริษัทโมเดอร์นาเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ว่า วัคซีนโควิด-19 รุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนนั้น สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งในการป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐในขณะนี้