ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เปิดเผยในรายงานการสังเกตการณ์เศรษฐกิจแปซิฟิก (Pacific Economic Monitor) ฉบับล่าสุดว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นภัยคุกคามระยะยาวต่อพื้นที่ที่อยู่ต่ำของฟิจิ ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะ รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องย้ายถิ่นฐานและการเสียชีวิตจากภัยพิบัติด้วย
ฟิจิ บรอดแคสติง คอร์ปอเรชันเปิดเผยว่า ADB ชี้ว่า พื้นที่ต่ำในฟิจิจะอ่อนไหวต่อคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) และน้ำท่วมมากขึ้นเรื่อย ๆ และสุดท้ายอาจไม่เหมาะสมที่จะตั้งถิ่นฐาน บีบบังคับให้ประชาชนหลายพันคนต้องย้ายที่อยู่ และทำให้สูญเสียชีวิต
รายงานการสังเกตการณ์เศรษฐกิจของ ADB ยังระบุด้วยว่า สถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นอีกเนื่องจากจำนวนและความรุนแรงของพายุไซโคลนที่มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชากรของฟิจิแล้ว ยังเป็นภัยคุกคามต่อภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องด้วย
รายงานระบุว่า การทำลายโครงสร้างธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะจะก่อให้เกิดผลเสียทางเศรษฐกิจที่รุนแรงตามมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นับตั้งแต่ปี 2559 พายุหมุนเขตร้อนระดับ 5 จำนวน 4 ลูกได้พัดถล่มฟิจิ ส่งผลให้เกิดความเสียหายรวมเทียบเท่า 21.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)