มณฑลไหหลำของจีนได้สั่งล็อกดาวน์เมืองหลายแห่ง รวมถึงเมืองไหโข่ว ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑล เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวนับหมื่นคนติดอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า มณฑลไหหลำได้เข้าสู่การล็อกดาวน์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ส.ค.) และพบผู้ติดเชื้อ 413 รายเมื่อวันอาทิตย์ โดยเมืองว่านหนิงและฉงไห่ได้เข้าสู่การล็อกดาวน์เช่นเดียวกับเมืองไหโข่ว ซึ่งเป็นูศนย์กลางการบินของมณฑลไหหลำ
ข้อมูลของรัฐบาลมณฑลไห่หลำเผยว่า นักท่องเที่ยว 25,000 คนติดค้างอยู่ตามโรงแรมหลายแห่งในเมืองซานย่า โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้นักท่องเที่ยวกว่า 3,000 คนพักอยู่ที่โรงแรมโดยรอบท่าอากาศยานนานาชาติซานยา ฟีนิกซ์ โดยให้นักท่องเที่ยวที่ตกค้างชำระเงินค่าห้องครึ่งหนึ่งจากราคาเต็มในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน จีนได้ลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินขาเข้าที่บรรทุกผู้โดยสารซึ่งติดเชื้อโควิด-19 โดยเจ้าหน้าที่ได้ปรับมาตราการควบคุมต่าง ๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน พร้อมกับยังคงดำเนินนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Covid Zero)
ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (CAAC) ลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินที่พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 ลงเหลือ 1 สัปดาห์หากพบว่ามีผู้โดยสารติดเชื้อจำนวน 5 คน หรือประมาณ 4% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด และลดระยะเวลาการระงับเที่ยวบินลงเหลือ 2 สัปดาห์หากพบผู้โดยสารติดเชื้อประมาณ 8% ของจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ CAAC กำหนดว่าเที่ยวบินที่พบผู้โดยสารติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน จะต้องถูกระงับเที่ยวบินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และหากพบผู้โดยสารติดเชื้อตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป จะต้องถูกระงับเที่ยวบินเป็นเวลานานถึง 4 สัปดาห์