เกิดเหตุเพลิงไหม้โบสถ์คริสต์นิกายคอปติกในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 41 คน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็ก นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่โบสถ์อาบูซีฟิน ในย่านอิมบาบาซึ่งตั้งอยู่ในกรุงไคโร โดยในระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น มีประชาชนเข้าร่วมพิธีทางศาสนาประมาณ 1,000 คน
รายงานระบุว่า เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ทำให้ทางเข้าออกของโบสถ์ถูกปิด ส่งผลให้ประชาชนวิ่งหนีกันอลหม่านและเหยียบย่ำกันเพื่อหนีเอาตัวรอด
ยาซีร์ มูนีร์ สมาชิกโบสถ์อาบูซีฟินซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า "ประชาชนมารวมตัวกันบนชั้น 3 และ 4 ของโบสถ์ จากนั้นไม่นานก็มีควันลอยขึ้นมาจากชั้น 2 ซึ่งทำให้ประชาชนวิ่งหนีลงไปทางบันไดและจากนั้นก็เริ่มเหยียบย่ำกันเพื่อหนีเอาตัวรอด เราได้ยินเสียงดังสนั่นและเห็นเปลวไฟปะทุออกมานอกหน้าต่าง"
ทางด้านประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซีซี ผู้นำอียิปต์ได้ทวีตข้อความแสดงความเสียใจต่อโศกนาฎกรรมครั้งนี้ พร้อมกับสั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุของเหตุการณ์เพลิงไหม้ และใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปีของอียิปต์ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับเพลิงไหม้ที่ค่อนข้างต่ำ โดยในเดือนมี.ค. 2564 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเสื้อผ้าใกล้กับกรุงไคโร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และบาดเจ็บ 24 คน