ชาวจีนโวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวล่าช้าเพราะซีโร่โควิด

ภารกิจกู้ภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในมณฑลเสฉวนนั้นเป็นไปอย่างล่าช้า อันเนื่องมาจากนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ (Zero-COVID) ของจีน ซึ่งทำให้เกิดการประท้วง และเพิ่มความเครียดให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัยซึ่งมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.8 แมกนิจูดในมณฑลเสฉวนเมื่อวันจันทร์ (7 ก.ย.) จีนได้บังคับใช้ข้อกำหนดในการควบคุมโรคโควิด-19 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดครั้งใหม่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งทำให้ต้องปิดเมืองแห่งหนึ่งที่มีประชากร 21 ล้านคน

เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้ข้อกำหนดอย่างเข้มงวด แม้เป็นอุปสรรคขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการรับประกันความปลอดภัยหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 74 ราย ขณะเดียวกันทีมกู้ภัยจากนอกพื้นที่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือด้วย

ทั้งนี้ ข้อกำหนดในการควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่พอใจและวิตกกังวล โดยเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้แจ้งกับผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ประสบภัยพิบัติที่พยายามจะอยู่กับเพื่อนและครอบครัวว่า พวกเขาต้องเรียนรู้และรายงานตัวตามข้อกำหนดในการควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่ใหม่ ๆ โดยจะสามารถออกจากพื้นที่ได้ หากมีผลตรวจเป็นลบเท่านั้น

นอกจากนี้ ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน รวมถึงไม่อนุญาตให้กลุ่มจากภายนอกเข้าช่วยเหลือด้านการกู้ภัย ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของแผนกป้องกันโรคโควิด-19 ของจังหวัดกานจือในมณฑลเสฉวน