สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยรายงานฉบับหนึ่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐระบุว่า รัสเซียได้สร้างความเสียหาย ทำลาย หรือเข้ายึดพื้นที่เก็บธัญพืชของยูเครน 14% นับตั้งแต่บุกโจมตียูเครนในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณอาหารโลกและคุกคามต่อการเก็บเกี่ยวผลผลิตในอนาคต
นายนาธาเนียล เรย์มอนด์ ผู้อำนวยการบริหารห้องปฏิบัติการวิจัยด้านมนุษยธรรมของโรงเรียนสาธารณสุขเยล ซึ่งเป็นผู้ทำการวิจัยระบุว่า บรรดานักวิจัยได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมของสถานที่จัดเก็บธัญพืช 344 แห่ง จากเกือบ 1,400 แห่งทั่วประเทศ และสรุปว่า พื้นที่จัดเก็บธัญพืชของยูเครนลดลงแตะ 49.8 ล้านเมตริกตัน ซึ่งลดลงจากความจุก่อนสงครามที่ 58 ล้านเมตริกตัน
นักวิจัยระบุว่า เมื่อพิจารณาถึงบทบาทของยูเครนในฐานะผู้จัดหาอาหารรายสำคัญแก่ทั้งตลาดโลกและหน่วยงานด้านมนุษยธรรมนั้น ความเสียหายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงเป็นวงกว้าง พร้อมเสริมว่า การเก็บเกี่ยวพืชผลในอนาคตอาจหดตัวลง เนื่องจากเกษตรกรอาจลดการเพาะปลูกพืช เพราะกลัวว่าพวกเขาจะไม่มีพื้นที่เพื่อเก็บรักษาพืชผล
การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาธัญพืชพุ่งสูงขึ้นจนก่อให้เกิดวิกฤตด้านราคา ดังนั้นปัญหาด้านการจัดเก็บอาจทำให้เกิดวิกฤตครั้งที่สอง
ทั้งนี้ นักวิจัยสรุปว่า เมืองมิโคลาอิฟ, ซาปอริซเซีย และโดเนตสก์ ได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยพื้นที่จัดเก็บธัญพืช 40 แห่งจาก 75 แห่งได้รับความเสียหาย แม้ว่าเมืองเหล่านี้อยู่ในแนวหน้าของการสู้รบ แต่นักวิจัยก็ไม่ได้ประเมินว่า กองกำลังรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีพื้นที่จัดเก็บธัญพืชของยูเครนโดยเจตนาหรือไม่